ระบอบฮุนเซน แทรกแซงครอบงำการเมืองไทยหรือไม่ ระวังจะถูกแทรกแซงครอบงำกลับ




กระผม มีเพื่อนชาวต่างประเทศอยู่หลายคน หนึ่งในนั้นก็คือเพื่อนชาวกัมพูชา หรือชาวเขมร กระผมขอเรียกชื่อเขาว่าเจ้าซานโตส ซึ่งคุ้นเคยกันมาตั้งแต่ทำข่าวการเมืองเมืองภายในกัมพูชาตั้งแต่ปี 2530 นู้น

นี่ คือการเจรจาหลังจากที่เกิดเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างทหารไทยและทหารกัมพูชาเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าซานโตส เป็นคนที่มีการศึกษาจึงสามารถวิพากษ์วิจารณ์ ให้ความรู้เกี่ยวกับสภาพภายในของการเมืองการปกครองภายในกัมพูชาได้

 



รัฐราชการอุปถัมภ์ยุวชนพรรคประชาชนกัมพูชา(ยุวชนพรรคCCP)

พอกระผมอ้าปากจะเอ่ยถามเรื่องการเมืองการทหารภายในประเทศเขมรเจ้าซานโตส ก็ชิงพูดชิงถามข้าพเจ้าก่อนว่า รู้จักการเมืองการปกครองภายในประเทศเขมรดีแค่ไหน

กระผมก็งงๆจะถามพูดคุยเรื่องการปะทะบริเวณชายแดน แต่ทำไมต้องเล่าเรื่องอื่นให้ฟัง ไหนๆจะเล่าสภาพทั่วไปของภายในประเทศเขมรแล้ว งั้นก็เชิญเลย ครับ

เจ้าซานโตส เล่าว่า รู้ไหมว่า พรรค พรรคประชาชน (Cambodian People’s Party หรือCCP)ของสมเด็จฮุนเซน มีระบอบการบริการการจัดการเป็นแบบ-ระบอบเผด็จการเลือกตั้งแบบครอบงำภายใต้โครงสร้างรัฐราชการอุปถัมภ์(หรือภาษาทางการเขาเรียกว่า ‘เผด็จการการเลือกตั้งแบบครอบงำ’ (hegemonic electoral authoritarianism)

พูดง่ายๆก็คือ เด็กๆและเยาวชนทุกคนต้องสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคCCP แล้วจะได้รับสิทธิพิเศษหรือจะเรียกว่าอภิสิทธิ์หลายอย่าง


ได้รับสิทธิ-อภิสิทธ์อย่างไร กระผม ถามต่อ

เจ้าซานโตส บอกว่า ที่มหาวิทยาลัย เด็กๆและเยาวชนเขมรเหล่านี้ จะเลือกเรียนคณะอะไรก็ได้ เช่นคณะแพทย์ คณะพยาบาล คณะวิศวกรรม รัฐศาสตร์ นิติศาสตร์ คอมพิวเตอร์ หรืออื่นๆ เลือกเรียนได้ทั้งนั้น

อยากเรียนอะไรได้เรียนโดยมีรัฐสนับสนุน เข้าหลักการรัฐราชการอุปถัมภ์ และส่วนใหญ่เด็กๆและเยาวชนที่เข้าเรียน จะเป็นเด็กและเยาวชนที่อยู่ภายในกรุงพนมเปญ เด็กที่อยู่ชายขอบ-ชายแดน หรืออยู่ตามภูมิภาคอื่นๆ ไม่ได้เรียนหรอกครับเพราะว่าอยู่ห่างไกลเดินทางมาเรียนลำบาก

เด็กๆและเยาวชน กลุ่มที่สมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคCCPกลุ่มนี้ จะได้รับการฝึกอบรม อุดมการณ์ของพรรคCPP จงรักภักดีต่อพรรคตั้งแต่เด็ก ว่างั้นเหอะ

และเมื่อสำเร็จการศึกษาภายใต้การอุปถัมภ์ของระบอบสมเด็จฮุนเซนนี้ จะได้รับสิทธิพิเศษ อภิสิทธิ์ มากกว่าคนอื่นเขา เช่น สามารถทำงานในระบบราชการได้เลย เติบโตในชีวิตราชการ เพื่อที่จะรับใช้ระบอบฮุนเซนในอนาคต ไม่ว่าจะเป็น ทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่ทูต ครู ฯลฯ  มีเครือข่ายสายสัมพันธ์ใกล้ชิดกับโครงสร้างบริหารราชการแผ่นดินในทุกระดับ ตั้งแต่รัฐส่วนกลาง ภูมิภาคและท้องถิ่น

เจ้าซานโตส ย้ำว่า ไม่มีโรงเรียนสอนภาษาไทยในกรุงพนมเปญ มีเปิดได้ครั้งเดียวเมื่อตอนที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี โดยมีอาจารย์จากมหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์เป็นผู้สอน

ปัจจุบันอาจารย์ผู้นี้ เสียชีวิตแล้ว เนื่องจากประสบอุบัติเหตุในรถแท็กซี่ ขณะที่เดินทางกลับประเทศไทย จากกรุงพนมเปญมาที่ชายแดนปอยเปต  

เด็กๆและเยาวชนกลุ่มนี้ เน้นเรียนสอนภาษาอังกฤษ และฝรั่งเศส ฉะนั้นข่าวสารจากประเทศไทย ที่เป็นภาษาไทย มีน้อยมาก จะได้รับข่าวสารจากการฟัง การพูดการคุยมากกว่า จะอ่านหนังสือพิมพ์ ข่าวสารที่เป็นภาษาอังกฤษภาษาฝรั่งเศส  หรือภาษาต่างประเทศอื่นๆเท่านั้น ซึ่งข่าวสารจากสื่อต่างชาติอื่นๆก็ลงเกี่ยวกับประเทศไทยน้อยมาก หรือถ้ามีลงก็จะลงในทางแง่ลบ ประเด็นที่มีความเสียหายต่อประเทศไทย ก็จะถูกนำไปถ่ายทอด และสื่อเคเบิ้ลทีวีก็ถ่ายทอดโทรทัศน์ประเทศไทยน้อยช่องมาก ส่วนใหญ่เป็นรายการบันเทิง เช่น รายการมวยของเมืองไทยชอบมาก เพราะมีการพนันขันต่อมีได้มีเสีย


ก็ ถูกปลูกฝังความคิด-ทัศนคติกับประเทศไทย ไปมาก

เด็กๆและเยาวชนกลุ่มนี้แหละ เจ้าซานโตส ย้ำว่า ที่เก่งด้านคอมพิวเตอร์ โซเซียลมีเดียทั้งหลาย จึงเป็นหัวหอกทิ่มแทงประเทศไทย ลงข่าวสารข้อมูล คอมเม้นต์ต่างๆ ทำAI เข้ามาปั่นป่วนอยู่ในกระแสโซเซียล ในขณะที่ชาวเขมรในภูมิภาคต่างๆทั่วประเทศ ยังมีความรู้ด้านอินเตอร์เนตและคลื่นสัญญานโทรศัพท์ อินเตอร์เนต น้อยมากหรือไม่มีเลย โทรศัพท์มือถือสักเครื่องก็ยังไม่มี ความเจริญความแออัดจะอยู่ที่กรุงพนมเปญ

ซึ่งชาวบ้านในกรุงพนมเปญส่วนใหญ่ ก็ยังใช้ชีวิตเป็นปกติ ไม่ได้มีความคิดเห็นเกี่ยวกับการเมืองการทหารแต่อย่างใด พุดคุยเรื่องการปะทะไทย กัมพูชา น้อยมาก

เพราะเป็นเรื่องของรัฐบาลกัมพูชา ถ้าพูดจะมีผลกระทบต่อธุรกิจธุรกรรมที่ทำอยู่ก็ได้ ใครที่มีความคิดเห็นที่ตรงข้าม อาจจะถูกเพ็งเล่งจากสมาชิกของพรรคที่มีอยู่ทั่วไป

กระผม ก็เลยถามว่า อย่างนี้การเรียนการสอนก็ต้องดีกว่าของไทยนะสิ เพราะมีรัฐบาลกัมพูชาอุปถัมภ์

เจ้าซานโตส ทำเสียงสูงตอบว่า ดีกะผีอะไร หนังสือตำราเรียน ไม่มีให้สักเล่ม นักเรียน นักศึกษาจะเรียนวิชาอะไร ต้องไปถ่ายเอกสารวิชานั้นๆเอา ธุรกิจร้านถ่ายเอกสารหรือก็อปปี้ทำเป็นเล่ม หน้าสถานศึกษาจึงมีร้านถ่ายเอกสารเพียบ

แต่ ไม่มีการเรียนภาษาไทย นะครับ

(ทำให้กระผมนึกถึงบรรยากาศหน้าม.รามคำแหง ขึ้นมาทันที นั้นคือเมื่อ20-30ปีก่อน)

 ไม่เข้าระบอบฮุนเซน มีไหมเจริญก้าวหน้าไหม

กระผม ก็ถามอีกว่า งั้นเด็กๆและเยาวชนเขมร อยากเรียนอยากเติบโตทางอาชีพราชการ ก็ต้องสมัครเป็นสมาชิกยุวชนพรรคCPP กันหมดล่ะสิ

เรียกว่าถนนทุกสายมุ่งสู่พรรคประชาชนกัมพูชา เหมือนกับยุคหนึ่งที่ถนนทุกสายมุ่งสู่ซอยราชครู และยุคนี้ถนนทุกสายมุ่งสู่บ้านจันทร์ส่องหล้า

เจ้าซานโตส ชิงตอบทันทีก่อนที่กระผมจะอธิบายความจบ

ว่า มีเด็กๆและเยาวชนรวมทั้งผู้ปกครองที่มีฐานะหลายคน หลายกลุ่ม ที่ไม่เห็นด้วยกับระบอบนี้ ไม่สนับสนุนให้บุตรหลานสมัครเป็นสมาชิกพรรคCPP หนำซ้ำยังส่งบุตรหลานมาเรียนที่ประเทศไทย หรือประเทศอื่นๆที่เจริญกว่า

รวมทั้งผู้ปกครองที่มีฐานะยากจนหรือชนชั้นกลาง ก็ไม่ให้บุตรหลานสมัครเป็นสมาชิกCPPทั้งหมดนะครับ

เพราะจะเห็นได้จาก บุตรหลานหลายคนเมื่อสำเร็จการศึกษา แอนตี้-ไม่สวมชุดครุยสถาบันเพื่อรับปริญญาบัตร เพราะไม่อยากถ่ายรูปร่วมกับสมเด็จฮุนเซน ที่มามอบประกาศนียบัตร-ให้

ส่วนการเข้าสู่ระบบราชการก็เป็นไปตามปกติ แต่โอกาสที่จะเติบโตทางอาชีพราชการ-คงยาก เพราะไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคCPP เมื่อถึงระยะหนึ่ง ก็ไปแสวงหาความเติบโตกับหน่วยงานเอกชนอื่น หรือเจ้านายอื่นต่อไป จะเห็นได้ว่าเด็กเขมรเก่งๆหนีไปทำงานเอกชนกับบริษัทต่างประเทศเยอะ เรียกว่าสมองไหลว่างั้นเหอะ

อาชีพทหารคับประเทศ

กระผมก็เลยถามต่อไปว่า อ้าว แล้วนายทหารเขมร ที่เคยร่วมทำข่าวกับเจ้าซานโตสเมื่อ30ปีก่อนล่ะ เขาเจริญเติบโตอาชีพราชการอย่างไร

เจ้าซานโตส ทำเสียงอ่อยหงุดหงิด ทหารแถบชายแดนที่เคยทำข่าวร่วมกันนั้น พวกนั้นเป็นทหารป่า ได้แต่งชุดทหารเท่ห์ๆ มีความรู้ความสามารถน้อย หาอยู่หากินแบบเดิมๆ คือคุ้มครองสิ่งของลักลอบผิดกฎหมายต่างๆ เช่น ลักลอบตัดไม้ ยาเสพติด แรงงานข้ามแดน

บทบาทเขาจะใหญ่มากเมื่อคนใหญ่คนโตของรัฐ เดินทางลงพื้นที่เพื่อตรวจราชการอะไรสักอย่าง เจ้าหน้าที่ตำรวจนู้นนนนนๆๆ(เจ้าซานโตส ลากเสียงยาว) ทำหน้าที่โบกรถจราจรเท่านั้น นายทหารเท่านั้น จึงจะมีสิทธิ์ใกล้ชิด-รับใช้เจ้านาย

ทหารยังมีบทบาทหน้าที่สูงกว่าเจ้าหน้าที่ระดับอื่น ว่างั้นเหอะ

การแทรกแซงนักการเมืองไทย

กระผม ก็อดถามไม่ได้ว่า เห็นภาพกลุ่มนักการเมืองไทย ไปแสดงความยินดีอะไรบางอย่างให้สมเด็จฮุนเซน เพราะกัมพูชา ให้เป็นที่พักพิงให้ที่ลี้ภัย อย่างนี้ถือเป็นการแทรกแซงการเมืองของไทยหรือเปล่า

เจ้าซานโตส ฉลาด ไม่ตอบ

อ้าว อย่างงี้แล้ว ใครโง่ นักการเมืองไทย รึ?

กระผมคิด ถ้าอย่างนั้นไทยก็ให้ที่พักพิงนักการเมืองฝ่ายค้านของเขมร ได้สิครับ?   




บทสรุปครอบงำและแทรกแซงหรือไม่

สมเด็จฮุน เซน ผูกขาดทรัพยากรทางการเมือง มีลักษณะเป็น ‘เผด็จการการเลือกตั้งแบบครอบงำ (hegemonic electoral authoritarianism)

นักการเมืองไทยที่ว่าเก่งๆยังถูกครอบงำได้

จะเห็นได้จากนักการเมืองฝ่ายค้านเขมร มาเที่ยวไทยยังถูกยิงตายข้างๆวัดบวรฯ

เอางี้ ให้ไทย เชิญนักการเมืองฝ่ายค้านของเขมร มาพูดเรื่องการเมืองของเขมรที่ประเทศไทย ขี้คร้านฝ่ายเขมร จะเต้นผ่างๆ

ส่วนฝ่ายไทย ก็หัวหด ไม่กล้า ก็จะอ้างว่า นั้นเราไปแทรกแซงการเมืองภายในประเทศเพื่อนบ้าน ทำไม่ได้ อิอิ  ครับเจ้านาย ปู๊นๆ