ทลายแก๊งต้มตุ๋นคริปโตข้ามชาติ! Eurojust รวบ 5 ผู้ต้องหา หลอกลงทุนกว่า 4 พันล้านบาท ครอบคลุม 23 ประเทศ

 

วันที่ 24 กันยายน 2568 – Eurojust หน่วยงานความร่วมมือทางอาญาของสหภาพยุโรป ประกาศความสำเร็จในการทลายเครือข่ายหลอกลวงการลงทุนสกุลเงินดิจิทัลครั้งใหญ่ สามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ 5 ราย พร้อมอายัดทรัพย์สิน หลังสร้างความเสียหายมูลค่ากว่า 100 ล้านยูโร (ประมาณ 4,000 ล้านบาท) มีเหยื่อมากกว่า 100 รายในหลายประเทศทั่วยุโรป

ปฏิบัติการครั้งนี้เป็นการประสานงานระหว่างหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายหลายประเทศ โดยมีการเข้าตรวจค้นสถานที่ 5 แห่งในสเปน โปรตุเกส อิตาลี โรมาเนีย และบัลแกเรีย พร้อมทั้งอายัดบัญชีธนาคารและสินทรัพย์ทางการเงินทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับแก๊งอาชญากรรมไซเบอร์นี้

เปิดโปงกลโกงสุดแยบยล

ตามรายงานของ Eurojust ผู้บงการหลักของขบวนการนี้ได้เปิดแพลตฟอร์มการลงทุนออนไลน์มาตั้งแต่ปี 2018 โดยใช้วิธีการชักชวนเหยื่อที่ไม่ทันระวังตัวให้เข้าร่วมลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลต่างๆ โดยอ้างว่าจะให้ผลตอบแทนที่สูงเกินจริง

เมื่อเหยื่อหลงเชื่อและทำการฝากเงินเข้ามา เงินเหล่านั้นจะถูกโอนต่อไปยังบัญชีธนาคารในประเทศลิทัวเนียเพื่อทำการฟอกเงิน และเมื่อเหยื่อพยายามที่จะถอนเงินหรือผลกำไรออกจากแพลตฟอร์ม คนร้ายจะเรียกร้องให้จ่ายค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม หลังจากนั้นไม่นาน เว็บไซต์ที่ใช้ในการหลอกลวงก็จะปิดตัวและหายไปอย่างไร้ร่องรอย

Eurojust ซึ่งร่วมมือกับ Europol ในปฏิบัติการครั้งนี้ระบุว่า "การหลอกลวงนี้ดำเนินมาอย่างน้อยตั้งแต่ปี 2018 และขยายวงกว้างไปใน 23 ประเทศทั่วโลก ทั้งในฐานะพื้นที่ที่ใช้ฟอกเงินและประเทศที่อยู่ของเหยื่อ"

ภัยการลงทุนออนไลน์ ภัยใกล้ตัวที่น่ากังวล

สถานการณ์นี้สอดคล้องกับข้อมูลจากคณะกรรมาธิการการค้าแห่งสหพันธรัฐ (FTC) ของสหรัฐอเมริกา ที่เปิดเผยว่าในปี 2024 ชาวอเมริกันสูญเสียเงินจากการถูกหลอกลวงเป็นประวัติการณ์ถึง 12.5 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 25% จากปีก่อนหน้า โดยการหลอกลวงด้านการลงทุนสร้างความเสียหายสูงสุดถึง 5.7 พันล้านดอลลาร์

"กว่า 79% ของผู้ที่รายงานว่าถูกหลอกให้ลงทุนต้องสูญเสียเงิน โดยมีมูลค่าความเสียหายเฉลี่ยต่อคนมากกว่า 9,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 330,000 บาท)" FTC กล่าวเสริม

กรณีศึกษา: การตอบโต้ฉับไวช่วยรักษาเงิน 13 ล้านดอลลาร์

ในขณะเดียวกัน Chainalysis บริษัทวิเคราะห์ข้อมูลบล็อกเชน ได้เปิดเผยกรณีศึกษาที่น่าสนใจซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 2 กันยายน 2568 ที่ผ่านมา เมื่อผู้ใช้งาน Venus Protocol ถูกโจมตีด้วยวิธี วิศวกรรมสังคม (Social Engineering) แต่ด้วยการตรวจจับที่รวดเร็วและการดำเนินการที่เด็ดขาด ทำให้สามารถกู้คืนเงินที่ถูกขโมยไปมูลค่าประมาณ 13 ล้านดอลลาร์กลับมาได้สำเร็จ

Chainalysis ระบุว่า "การโจมตีเริ่มต้นจากการที่แฮกเกอร์ใช้โปรแกรม Zoom ที่ถูกแฮกเพื่อเข้าถึงระบบของเหยื่อ จากนั้นจึงหลอกล่อให้ผู้ใช้งานทำธุรกรรมบนบล็อกเชน ซึ่งเป็นการมอบสิทธิ์ในการเข้าควบคุมบัญชี (Delegate Status) ทำให้คนร้ายสามารถยักย้ายถ่ายเทสินทรัพย์ออกจากบัญชีของเหยื่อได้โดยตรง"

สิ่งที่น่าทึ่งคือ Venus Protocol ได้ทำการหยุดระบบชั่วคราวภายใน 20 นาทีหลังเกิดเหตุ ทำให้แฮกเกอร์ไม่สามารถเคลื่อนย้ายเงินต่อไปได้ จากนั้นภายใน 12 ชั่วโมงต่อมา ทีมงานได้ทำการบังคับชำระบัญชี (force-liquidated) กระเป๋าเงินของแฮกเกอร์ กู้คืนเงินทั้งหมด และกลับมาให้บริการได้ตามปกติ ยิ่งไปกว่านั้น ชุมชนผู้ใช้งานยังได้ลงมติให้อายัดสินทรัพย์ของแฮกเกอร์ที่เหลืออยู่อีก 3 ล้านดอลลาร์ ทำให้สุดท้ายแล้วแฮกเกอร์ไม่เพียงแต่ไม่ได้กำไร แต่ยังต้องขาดทุนไป 3 ล้านดอลลาร์อีกด้วย

ข่าวการจับกุมของ Eurojust เกิดขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกับการที่สำนักงานตำรวจนครบาลโซล (SMPA) ของเกาหลีใต้ได้ทลายปฏิบัติการอาชญากรรมไซเบอร์ที่ขโมยเงินจากเหยื่อซึ่งเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงและผู้บริหารระดับสูงไปกว่า 30 ล้านดอลลาร์ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มของภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่เกิดขึ้นพร้อมกันทั่วโลก

#ดรกฤษฎาแก้ววัดปริง #ไทยสมาร์ทซิตี้ #SmartCity #DRKRIT #สมาร์ทซิตี้คลิก